นมผึ้ง (Royal Jelly) เป็นสารอาหารที่มีไว้ในการเลี้ยงตัวนางพญาและตัวอ่อนของผึ้ง ซึ่งประโยชน์ของนมผึ้งมีมากมายในการนำมาใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณ แต่ในการประยุกต์ใช้ในยาปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการทดลองอยู่
ประโยชน์ของนมผึ้ง มีดังนี้
นมผึ้งมีสารอาหารที่หลากหลาย
นมผึ้งประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรจ โปรตีน ไขมัน ซึ่งส่วนประกอบทางเคมีทั้งหมดของนมผึ้งยังเป็นระหว่างการวิจัย
แต่ผลในเชิงบวกต่อสุขภาพนั้นเกิดจากโปรตีนและกรดไขมันที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งจะรวมถึง โปรตีนอีก 9 ชนิด ที่จะเรียกรวมกันว่า (MRJPs) and two fatty acids, trans-10-Hydroxy-2-decenoic acid and 10-Hydroxydecanoic acid ไม่เพียงเท่านี้ นมผึ้งยังมีวิตามินบีที่มักมีอยู่ในนมผึ้ง ได้แก่
- ไทอามีน B1
- ไรโบฟลาวิน B2
- ไพริดอกซิ B3
- กรดแพนโทเทนิก B5
- ไพริดอกซิ B6
- ไบโอติน B7
- อิโนซิทอล B8
- กรดโฟลิก B9
ดังนั้น สรุปง่ายๆ ก็คือในนมผึ้งมีส่วนประกอบด้วยน้ำ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามินบี และแร่ธาตุและกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคน
มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเรื่องการลดการอักเสบ
อีกประโยชน์ของนมผึ้งที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป คือการลดการอักเสบ และลดความเครียดจากปฏิกริยาออกซิเดชั่น (คือความเครียดที่เกิดจากที่อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายระบบต่างๆ ภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เช่น การรวมตัวกับสารพันธุกรรม คือ ดีเอ็นเอ ทำให้โมเลกุลของดีเอ็นเอเปลี่ยนแปลงไป หรือการเกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่นของลิฟิตที่เป็นองค์ประกอบในเมนเบรนของเซลล์ได้เป็นสารเพอร์ออกไซด์ ทำให้เซลล์เมนเบรนเสียสภาพ และไม่สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนปกติ)
นมผึ้งจากการทดลองกับสัตว์หลายๆครั้ง นมผึ้งจะไปต้านกรดอะมิโน กรดไขมัน และสารประกอบฟีนอล แต่แม้ว่าผลลัพธ์จะมีแนวโน้มในทางที่ดี แต่ก็ยังขาดการทดลองกับมนุษย์ จึงทำให้การทดลองดังกล่าวยังไม่ครอบคลุม
ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจที่มาจากคอเลสเตอรอล
จากการทดลองในสัตว์และมนุษย์ ในเรื่องการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจที่เกิดจากคอเลสเตอรอล แสดงให้เห็นว่านมผึ้ง ช่วยในเรื่องของการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ทั้งนี้ผลการทดลองยังไม่แน่นอน 100% แต่ถึงแม้ยังไม่ชัดเจนในเรื่องผลการทดลองแต่ตามหลักแล้วโปรตีนที่อยู่ในนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ซึ่งในการทดลองนมผึ้งในกระต่ายพบว่าระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมที่ไม่ดีแบบมีนัยสำคัญถึง 28% และ 23% ตามลำดับ ซึ่งในลักษณะเดียวกันการศึกษาในมนุษย์พบว่าระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมและ LDL ที่ไม่ดี ลดลง 11% และ 4% ในผู้ที่รับประทานนมผึ้งประมาณ 3 กรัมทุกวัน แต่ในทางกลับกันในการทดลองอีกครั้ง ระบุว่าไม่มีความแตกต่างของระดับคอเลสเตอรอลระหว่างผู้เข้าร่วมที่ได้รับนมผึ้งกับผู้ที่ได้รับยา
ดังนั้น ถึงแม้การทดลองดังกล่าวกับนมผึ้งจะมีแนวโน้มที่ดี แต่ยังมีความจำเป็นที่ต้องได้รับการทดลองหรือศึกษาเพิ่มเติม เพื่อได้ประโยชน์สูงสุด
ช่วยการรักษาบาดแผลและซ่อมแซมผิวหนัง
นมผึ้ง มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ รวมถึงความสามารถในการช่วยสมานแผลและซ่อมแซมผิวหนัง เนื่องจากประกอบด้วยสารประกอบต่างๆ เช่น วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจสนับสนุนกระบวนการรักษาตามธรรมชาติของผิว นอกจากนี้ การศึกษาบางชิ้นยังแนะนำว่านมผึ้งอาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวและลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
อย่างไรก็ตาม นมผึ้งจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบของนมผึ้งต่อการสมานแผลและการซ่อมแซมผิวหนังอย่างแท้จริง และเป็นประโยชน์ที่เป็นไปได้ของการใช้นมผึ้ง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญคือศึกษา และปรึกษาแพทย์ผู้เชียวชาญในการใช้นมผึ้งในการรักษา
โปรตีนเฉพาะในนมผึ้งอาจลดความดันโลหิตได้
มีหลักฐานในงานวิจัยบางอย่างที่บ่งชี้ว่า โปรตีนเฉพาะที่พบในนมผึ้งอาจมีผลต่อการลดความดันโลหิต การศึกษาในสัตว์ทดลองและในหลอดทดลองบางชิ้นรายงานว่าการบริโภคนมผึ้งหรือส่วนประกอบของนมผึ้งอาจช่วยลดความดันโลหิตสูงได้โดยการเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์ ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ช่วยในการผ่อนคลายและขยายหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของนมผึ้งในการควบคุมความดันโลหิต และผลการวิจัยเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับมนุษย์ได้หรือไม่ นอกจากนี้ รอยัลเยลลีอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพูดคุยกับผู้ให้บริการทางการแพทย์ก่อนที่จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพใดๆ
การควบคุมน้ำตาลในเลือด โดยการลดความเครียดออกซิเดชัน และการอักเสบ
มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่านมผึ้งอาจช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยการลดความเครียดจากอนุมูลอิสระ และการอักเสบ ซึ่งงานวิจัยบางชิ้นบงชี้ว่านมผึ้งหรือส่วนประกอบของนมผึ้งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากความเครียดออกซิเดชันและการอักเสบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นระบุว่านมผึ้งอาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีจำเป็นที่ต้องวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของนมผึ้งต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และผลการวิจัยเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับมนุษย์ได้หรือไม่ เช่นเดียวกับอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้นมผึ้งเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพใดๆ
คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระอาจสนับสนุนการทำงานของสมองที่แข็งแรง
อีกหนึ่งประโยชน์ของนมผึ้ง คือมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่อาจสนับสนุนการทำงานของสมองที่แข็งแรง สารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องสมองจากความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งสามารถทำลายเซลล์สมองและนำไปสู่การพัฒนาสภาวะทางระบบประสาทต่างๆ การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่านมผึ้งหรือส่วนประกอบของนมผึ้งอาจช่วยปกป้องสมองและปรับปรุงการทำงานของสมองโดยการลดความเครียดจากอนุมูลอิสระและการอักเสบ
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของนมผึ้งต่อสุขภาพสมองอย่างถ่องแท้ และผลการวิจัยเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับมนุษย์ได้หรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสุขภาพ
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของนมผึ้ง
นมผึ้งเป็นสารน้ำนมที่ผลิตโดยผึ้ง และบางครั้งใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จำกัดเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างเหล่านี้
การบริโภคนมผึ้งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น การระคายเคืองผิวหนัง อาการคัน และความรู้สึกไม่สบายทางเดินอาหาร ในบางกรณี อาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง เช่น ภาวะภูมิแพ้ (anaphylaxis) ผู้ที่แพ้เหล็กไนผึ้งหรือน้ำผึ้งควรหลีกเลี่ยงการรับประทานนมผึ้ง
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่จำกัดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับประทานนมผึ้งในระหว่างตั้งครรภ์หรือขณะให้นมบุตร ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้นมผึ้งในกรณีเหล่านี้
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าคุณภาพและความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์รอยัลเยลลีอาจแตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงควรซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ก่อนรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ รวมถึงนมผึ้ง ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อตรวจสอบว่าปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่